โพสข้อความเทิดทูน กรมทหารช่างที่ ๓
กรมทหารช่างที่ ๓ |
|
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทนก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้วไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ (พระบรมราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ครูและนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา 27 มีนาคม 2523) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนไม่มีความสุจริต คนไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวม ที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ (พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12 กรกฎาคม 2522)
|
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความคิดนั้นเป็นแม่บทใหญ่ของการพูดและการกระทำ เพราะกิจที่จะทำคำที่จะพูดทุกอย่างล้วนสำเร็จมาจากความคิด การคิดก่อนพูดและก่อนทำจึงช่วยให้บุคคลสามารถยับยั้งคำพูดที่ไม่สมควร หยุดยั้งการกระทำที่ไม่ถูกต้อง (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10 กรกฎาคม 2540) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ดีแต่ขาดความยั้งคิด นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบ ก็เท่ากับเป็นบุคคล ที่เป็นภัยแก่สังคมของมนุษย์ (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 18 กันยายน 2504) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่บุคคลทเข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดสดาลย 4 ธันวาคม 2541) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการปฏิบัติราชการนั้น ขอให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อย่านึกถึงบำเหน็จรางวัลหรือผลประโยชน์ให้มาก ขอให้ถือว่าการทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ เป็นทั้งรางวัลและประโยชน์อย่างประเสริฐ จะทำให้บ้านเมืองไทยของเราอยู่เย็นเป็นสุขและมั่นคง (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวนขาราชการพลเรือน 1 เมษายน 2533) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณธรรมข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้ การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใด แก่ผู้ใด โดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไม่ตรีอย่างสำคัญระหว่างบุคคลกับบุคคล และให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม (เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2545) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การมีเสรีภาพนั้นเป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพ และความเป็นปรกติสุขของส่วนรวมด้วย (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ 9 กรกฎาคม 2514) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นวาไม่น่าที่จะเจริญ ไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือวิธีการที่ดีจะไม่ล้าสมัย (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร 13 มีนาคม 2514) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุงและการพัฒนาที่มีประสิทธิ์ภาพ ทางที่เราจะช่วยกันได้ก็คือ การที่ทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ ของบ้านเมืองเป็นที่หมายต้องเพลาคิดถึงประโยชน์ เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2543) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความเจริญของประเทศชาติเป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลของการกระทำของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ และเกื้อกูลกันและกันไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลาพงตนเอง (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10 กรกฎาคม 2513) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจะพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างให้เจริญนั้นจะต้องสร้างและเสริมขึ้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนทั้งสิ้น ถ้าพื้นฐานไม่ดีหรือคลอนแคลนบกพร่องแล้ว ที่จะเพิ่มเติมเสริมต่อให้เจริญขึ้นไปอีกนั้น ยากนักที่จะทำได้ จึงควรจะเข้าใจให้แจ้งชัดว่า นอกจากจะมุ่งสร้างความเจริญแล้ว ยังต้องพยายามรักษาพื้นฐานให้มั่นคง ไม่บกพร่อง พร้อมๆ กันไปด้วย (ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นสตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาฯ 10 ก.ค.2523) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทยเสมอ (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น 27 ก.พ. 2537) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมือง ก็ดำรงอยู่ได้ เพราะสถาบันต่างๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น (พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และ อาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก 8 มิ.ย.2514) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทย เสมอ (พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น 27 ก.พ. 2537) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคี เป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทย ที่ได้อบรมสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษโดย ไม่ขาดสาย ทั้งนี้ เพราะคนไทย ทราบตระหนักว่า หมู่คณะที่มีความ สามัคคีแน่นแฟ้นสมบูรณ์ ย่อมมีกำลังกล้าแข็งทั้งในการคิดและการปฏิบัติ (พระราชทานในการประชุมใหญ่ สามัคคีสมาคม 26 ก.ค.2534) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้าน เมื่องอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2532) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
|
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ ไม่วาจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ ทุกอย่างมาจนกระทั้งทุกวันนี้ (ในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ 3 ธ.ค.2522 ณ ลานพระราชวังดุสิต) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษา ประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป (ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนาม ของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวงดุสิต 3 ธ.ค.2529) |