โพสข้อความเทิดทูน กรมทหารช่างที่ ๓
กรมทหารช่างที่ ๓ |
|
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใด โดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆ ฝ่ายทุกๆคน ที่จะต้องรวมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน (ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก 8 มิ.ย.2514) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผนมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน จงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป (ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2521) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ธรรมชาติแวดล้อมของเรา ไม่วาจะเป็นแผ่นดิน ปาไม้ แม่น้ำ ทะเล และอากาศ มิได้เป็นเพียงสิ่งสวยๆ งามๆ เท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของเรา และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดิน ก็เท่ากับเป็นการปกปักรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราด้วย |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองไทย สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆได้โดยดี เพราะว่าจิตใจสามัคคีและแสดงออกซึ่งสามัคคี ถ้าตราบใดเรารักษาความสามัคคีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันไว้ได้ เราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุขตราบนั้น (พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะประชาชน จ.ราชบุรี พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 26 พ.ย.2531) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคี เป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทย ที่ได้อบรมสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษโดยไม่ขาดสาย ทั้งนี้ เพราะคนไทย ทราบตระหนักว่า หมู่คณะที่มีความสามัคคีแน่นแฟ้นสมบูรณ์ ย่อมมีกำลังกล้าแข็งทั้งในการคิดและการปฏิบัติ (พระบรมราโชวาท พระราชทานในการประชุมใหญ่ สามัคคีสมาคม 26 ก.ค.2534) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2532) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2532) |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก่หลายๆคน หลายๆ ทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน (ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 13 กรกฎาคม 2533) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2532) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตยและมีความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั้งทุกวันนี้ (พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ 3 ธ.ค.2522 ณ ลานพระราชวังดุสิต) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป (พระบรมราโชวาท ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนาม ของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธ.ค.2529) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป (พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2521) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย่งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่เป็นสังคมย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชาและความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่างๆ ยอมเป็นประโยชน์ ถ้ามีรากฐานของความคิดอย่างเดียวกัน รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความสุข มีความเป็นปึกแผ่น (พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ วันอังคาร 29 ต.ค.2517) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกันโดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคนไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติ เพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์ ทุกคนต้องการความสุข หากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยยุติธรรม (ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำกระทรวงเข้าเฝ้าฯ วันพุธที่ 21 ธ.ค.2537) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะ และถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดสมควร สิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่ความเจริญ ความมั่นคง ความสุขก็ทำ สิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ (พระราชทานในพิธีพระราชทานธงประจารนลูกเสือชาวบาน จ.สระบุรี วันศุกร์ที่ 16 เม.ย.2519) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้สิ้นเปลืองไปโดยไรประโยชน์ หรือได้ประโยชน์ ไม่คุ้มค่า หากแต่ระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์ แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว (ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลมพระชนมพรรษา วันศุกร์ 5 ธ.ค. 2529) |
พลฯชลันธร ณ เชียงให |
พระองค์ทรงเป็นมหาราชของการปกครองแผ่นดินโดยธรรม |
พลฯชลันธร ณ เชียงให |
พระบารมีอันแผ่ไพศาล ย่อมบริบาลผู้ที่มีความจงรักภักดีตลอดไป |
พลฯ กฤษดา ดิษบรรจง |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ ไม่วาจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ ทุกอย่างมาจนกระทั้งทุกวันนี้ (ในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ 3 ธ.ค.2522 ณ ลานพระราชวังดุสิต) |
พลฯนิวัฒน์ ตุ้มพลอย |
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ไม่วาจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมสงผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ทุกคนทุกประเทศในโลกจงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อมให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเองและเพื่อนมนุษย์ (พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือที่ระลึก ในพิธีรับมอบเรือขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กน้อม เกล้าฯ ถวาย วันพุธ 20 พ.ย.2539) |